FanKhao

คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายรังสรรค์เรือนำขบวนพาเหรด ในพิธีเปิดการแข่งขันเรือพาย อบต.คลองสาม

     วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ณ ท่าน้ำบริเวณหน้าวัดกลางคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อำเภอคลองหลวง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม และคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้รังสรรค์เรือเพื่อนำขบวนพาเหรดเรือในพิธีเปิดโครงการแข่งขันเรือพาย อบต.คลองสาม ประจำปี พ.ศ. 2567

      โดยคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้รังสรรค์เรือ จำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือลำที่ 1 คือ “เรือพุทธบูชา มหาบารมี” น้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ปูชนียธาตุอันทรงคุณค่า และศักดิ์สิทธิ์ เป็นเครื่องระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นธาตุที่เกิดจากการปฏิบัติบารมีทั้ง 30 ทัศ ของพระบรมโพธิสัตว์ จนทรงบรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก และเรือลำที่ 2 คือ “เรือมหามงคล 72 พรรษา” พสกนิกรชาวอำเภอคลองหลวง องค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม และคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ร่วมแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา (28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567)

     บรรยากาศภายในพิธีเปิดฯ มี รศ.วิระศักดิ์  ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม และนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการปิดโครงการแข่งขันเรือพาย ประจำปี 2567 ณ ท่าน้ำวัดกลางคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา ภายในงานมีการแข่งขันเรือพายทั้งหมด 27 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทประชาชนชาย 15 ทีม และประเภทประชาชนหญิง 12 ทีม โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขันจากประชาชน ต.คลองสาม หมู่ที่ 1-16 มีคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่องค์กรบริหารส่วนตำบลคลองสาม พร้อมประชาชนให้ความสนใจมาร่วมชมการแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก

     ด้าน รศ.วิระศักดิ์ ฮาดดา ได้กล่าวแสดงความยินดี และขอบคุณในการร่วมแรงใจของพี่น้องประชาชนชาวคลองสามที่ให้ความร่วมมือทำให้โครงการแข่งขันเรือพ่ายครั้งนี้ บรรลุวัตถุประสงค์อย่างดีเยี่ยม และในช่วงปิดการแข่งขันยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปีหน้าจะจัดยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางด้านกีฬาเรือพายแก่ประชาชน และส่งเสริมให้ประชาชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นเกราะป้องกันภัยยาเสพติด รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่นด้วย.

ข่าว อนุธิดา ศิริบำรุง